บทเรียนอดีตสอนเราว่า เมื่อต้องยืมมือพุทธกำจัดพุทธ คำว่า "บิดเบือนคำสอน" นั้นเป็นอาวุธที่ใช้ได้ผลเสมอ


ศาสนาพุทธตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย
ทั้งที่มีบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และไม่มี
บันทึกไว้มีมากมาย นับเป็นร้อยนิกาย
แต่ที่เป็นกระแสหลักมีเพียง 2 นิกาย
คือ เถรวาท กับมหายาน 
แต่ใน 2 นิกาย มีปลีกย่อยออกไปอีก 
เป็นจำนวนมาก

ดังเช่นนิกายเถรวาทเมืองไทย
ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม, ที่นับถือผีสาง
นางไม้ , ที่นับถือพญานาค, ที่สักยันต์
ที่สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา, ที่ใบ้หวย
ให้เบอร์, ที่สอนสมาธิ-วิปัสสนาฯลฯ
แม้จะสวมชุดเถรวาทเมืองไทย แต่ก็
มีสิทธิเสรีภาพ ที่จะปฏิบัติตามความ
เชื่อของตนได้อย่างเสรีโดยไม่มีใคร
เคยคิดจะถอนรากถอนโคนทิ้ง

แต่พอถึงวัดธรรมกายแล้วทนดูไม่ได้
ต้องขุดรากถอนโคนออกให้ได้ 
"เพื่อชำระพุทธศาสนาให้สะอาดบริสุทธิ์"
ทำเหมือนกับจะเป็นจะตายเสียให้ได้
แต่จริงๆ แล้วใครก็ล้วนดูออก ว่าเป็น
เจตนาร้ายต่อพระพุทธศาสนา 
ไม่ใช่เจตนาดีตามที่แสดงละครกัน

ไม่น่าเชื่อว่าในหนังกับชีวิตจริง
จะเหมือนกัน ในหนังปรมาจารย์ตั๊กม้อ

ราชครู (ตัวร้าย) ทูลยุยงฮ่องเต้ว่า...
ตั๊กม้อ (พระเอก) คือมารพุทธศาสนา
ที่บิดเบือนคำสอน ของพระพุทธเจ้า
หากปล่อยไว้ในแผ่นดิน ก็จะพากันลง
นรกเสียหมดต้องกำจัดทิ้งสถานเดียว
ในความจริง "ราชครู" นั่นแหละตัวพ่อ
เลยที่บิดเบือนคำสอนพระพุทธเจ้า
เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง!!

#ถ้ายืมมือพุทธทำลายพุทธ
ก็อ้างเหตุผลว่าต้องถอนรากถอนโคน
เพราะ "บิดเบือนคำสอนพระพุทธเจ้า"
กำจัดเพื่อชำระคำสอนให้บริสุทธิ์

#แต่ถ้าลงมือกำจัดพุทธด้วยตนเอง
ก็อ้างเหตุผลว่า "เป็นศัตรูของพระเจ้า"
จะอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันไม่ได้เพราะ
โลกนี้คือผลงานที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา

#ไม่รู้หนัง "ปรมาจารย์ตั๊กม้อ"
บางบทเอาเรื่องราวของ "วัดพระธรรมกาย"
ในตอนถูกปรักปรำใส่ร้ายป้ายสี
ไปสร้าง หรือเอาความจริงไปสร้าง
ก็ไม่รู้ได้ หรือความจริงก็เป็นแบบนี้

บทเรียนอดีตสอนเราว่า เมื่อต้องยืมมือพุทธกำจัดพุทธ คำว่า "บิดเบือนคำสอน" นั้นเป็นอาวุธที่ใช้ได้ผลเสมอ บทเรียนอดีตสอนเราว่า เมื่อต้องยืมมือพุทธกำจัดพุทธ คำว่า "บิดเบือนคำสอน" นั้นเป็นอาวุธที่ใช้ได้ผลเสมอ Reviewed by bombom55 on 23:40 Rating: 5

6 ความคิดเห็น:

  1. วันวิสาขบูชาชาวพุทธรวมพลังกัน****
    *สวดธรรมจักรฯบูชา---------- พระรัตนตรัย***
    สวดบูชาพระพุทธเจ้าจำนวน----- บ่สุดสิ้น***
    อนิสงฆ์ผลบุญแผ่ไพศาล----บ่สิ้นสุดอจินไตย****
    อนันผลบุญนับอสงไขยนับบ่ได้ ----ปลื้มใจแผ่ไพศาล*

    ตอบลบ
  2. กายคันถะคืออิทังสัจจาภินิเวส แปลว่า สิ่งนี้(ของฉัน)เท่านั้นจริง ของคนอื่นเท็จ นี้เป็นกิเลสในกลุ่มคันถะคือเครื่องร้อยรัด ๔ ประเภท ร้อยรัดแม้กระทั้งผู้มุ่งทำความดี แต่ยึดมั่นถือมั่น ยกตนข่มผู้อื่น เหมือนมิกจ้อโจวซือ(แม่ชีเจ้าสำนักง้อไบ้-มิกจ้อ แปลว่า ปราบมาร) ปากก็พูดว่ามุ่งจะปราบพรรคมาร แต่ความคิด คำพูด การกระทำของตนนั่นแหละเลวยิ่งกว่าพรรคอื่นที่ตนเองกล่าวหาว่าเป็นมารอีก แต่ก็ยังไม่รู้ตัวแม้จนตายก็เอาความโง่ความยึดมั่นสำคัญผิดติดตัวไปข้ามชาติอีกด้วย..เฮ้อน่าอนาถพวกชาวพุทธที่เป็นแบบชีมิกจ้อจริงๆๆ

    ตอบลบ
  3. เราคนไทยรักชาติศาสน์กษัตริย์
    เรายืนหยัดรักสงบสมานฉันท์
    เราเชิญชวนมาร่วมสวดธัมมจักรฯกัน
    เราเชิญท่านร่วมสานฝันเพื่อชาติไทย...

    ตอบลบ
  4. แม้มีผู้คิดทำลายพระพุทธศาสนา มีแผนร้ายกาจต่างๆนาๆ อาศัยผู้มีอำนาจหนุนหลังอยู่ จึงทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครทำอะไรได้ แต่สิ่งที่เขาหนีไม่พ้น ต้องเจอแน่นอน คือ กฎแห่งกรรม ที่พบแต่ความทุกข์ทรมานเอย.

    ตอบลบ
  5. วัดธรรมกายบิดเบือนคำสอนพระศาสดาจริงครับแล้วมาแต่งนิยายหลอกชาวบ้านว่าเป็นแผนทำลายพุทธ ความจริงวัดธรรมกายนั่นแหละเป็นสถาบันนอกศาสนาที่คิดทำลายพุทธและชาววัดธรรมกายไม่ได้นับถือศาสนาพุทธแต่นับถือศาสนา"สด" พระกับโยมวัดธรรมกายนับถือศาสนา"สด"ไม่ใช่ศาสนาพุทธ

    ตอบลบ
  6. พระกับโยมวัดธรรมกายเป็นชาว"สด"ไม่ใช่ชาวพุทธแต่โกหกชาวบ้านว่าเป็นชาวพุทธ พวกธรรมกายเอาตาสดพระนอกรีตมาตั้งเป็นศาสดา

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.